แม่ท้องกับการ ”แท้ง”

- การแท้งตามธรรมชาติมีมากถึง 10-15 % ของการตั้งครรภ์ทั้งหมด ส่วนใหญ่มักเกิดในช่วงอายุครรภ์ 4-20 สัปดาห์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วง 13 สัปดาห์แรกของการตั้งครรภ์
- คุณแม่ตั้งครรภ์ ควรงดบุหรี่ ดื่มแอลกอฮอล์และสารเสพติดโดยเด็ดขาด รวมถึงหลีกเลี่ยงการสัมผัสสารเคมีต่างๆ เช่น ยาฆ่าแมลง หรือน้ำยาทำความสะอาดที่ผสมสารเคมี เพื่อป้องกันการแท้ง
- หากพบอาการผิดปกติ เช่น มีเลือดไหลออกทางช่องคลอด ปวดท้องติดต่อกันหลายวัน ท้องไม่โตขึ้นหรือมีขนาดเล็กลง ควรรีบไปพบแพทย์ทันที
จากละครยอดนิยม “กรงกรรม” แม้เรณูจะท้องปลอมๆ และสบช่องเมื่อประจำเดือนไหลเลอะ อ้างว่าหกล้มจนแท้งลูก ผู้คนรอบตัวต่างพากันสงสาร ด้วยเห็นนางทำงานหนักหาบคอนขายขนมอย่างแข็งขัน
ละครจบ ความจริงไม่จบ ว่าที่คุณแม่ทั้งที่ดูละครและไม่ได้ดู มักมีความวิตกกังวลถึงสุขภาพพลานามัยของทารกน้อยที่กำลังจะเกิดมาดูโลก รวมถึงมีความกังวลไม่น้อยถึงความปลอดภัยในครรภ์ กลัวว่าจะเกิดการแท้งขึ้น ซึ่งความวิตกกังวลเหล่านี้อาจทำให้เกิดความเครียดโดยที่คุณแม่ไม่ได้ตั้งใจ
จากสถิติการแท้งบุตรพบว่า การแท้งตามธรรมชาติมีมากถึง 10-15 % ของการตั้งครรภ์ทั้งหมด โดยปัจจัยเสี่ยงต่อการแท้งมีหลากหลาย ทั้งสามารถป้องกันได้ และปัจจัยที่ไม่สามารถป้องกัน รวมถึงบางกรณีอาจไม่มีปัจจัยเสี่ยงเลยก็ตาม
ปัจจัยเสี่ยงแท้งบุตร
- การท้องในคุณแม่ที่อายุมากกว่า 35 ปี
- สุขภาพไม่ดี ระบบภูมิคุ้มกันผิดปกติ หรือมีโรคประจำตัวเรื้อรัง
- เคยคุมกำเนิดด้วยการใส่ห่วงอนามัยที่มีภาวะแทรกซ้อน
- มีประวิตแท้งลูก มาก่อน หรือเคยมีการขูดมดลูกจากสาเหตุอื่นๆ ส่งผลให้ตัวอ่อนไม่สามารถเจริญเติบโต
- มีความเครียดสูง รวมถึงภาวะซึมเศร้าหรือผิดหวังอย่างรุนแรง
- ได้รับการกระแทกบริเวณท้อง หรือเกิดอุบัติเหตุโดยตรง
- เล่นกีฬาที่มีการกระแทก หรือใช้แรงมาก
- คุณแม่ดื่มเหล้า สูบบุหรี่ หรือติดยาเสพติด
อาการที่เป็นสัญญาณว่าแท้ง
- มีเลือดไหลออกทางช่องคลอด ไม่ว่าจะมากหรือน้อย ควรรีบไปพบแพทย์ทันที
- ปวดท้องติดต่อกันหลายวัน หรือปวดอย่างรุนแรง เพราะอาจเป็นสัญญาณของ อาการแท้ง
- น้ำหนักตัวลดโดยไม่ทราบสาเหตุ
- ท้องไม่โตขึ้นหรือมีขนาดเล็กลง ทั้งๆ ที่อายุครรภ์มากขึ้น
- รู้สึกถึงการบีบตัวของมดลูกบ่อยมากขึ้น
- อาการต่างๆ หายไปอย่างฉับพลัน เช่น ไม่แพ้ท้อง ทั้งๆ ที่เคยแพ้ท้อง หรืออาเจียนคลื่นไส้อย่างหนัก
การป้องกันการแท้ง
- ปรึกษาแพทย์ตั้งแต่ก่อนตั้งครรภ์
- ฝากครรภ์ทันทีที่ทราบว่าตั้งครรภ์ รวมถึงบอกประวัติอย่างละเอียด เช่น เคยแท้ง หรือปัจจัยเสี่ยงการแท้งลูกต่างๆ
- ลดความเครียด รู้จักปล่อยวาง ไม่วิตกกังวลกับปัญหาที่แก้ไม่ได้ หรือยังไม่มาถึง รวมถึงพักผ่อนนอนหลับให้เพียงพอ
- ควบคุมโรคประจำตัว โดยพบแพทย์สม่ำเสมอ ปฏิบัติตัวตามแพทย์แนะนำอย่างเคร่งครัด และที่สำคัญไม่ควรซื้อยารับประทานเองเด็ดขาด
- ควบคุมน้ำหนักให้อยู่ในเกณฑ์ ตามระยะเวลาตั้งครรภ์ โดยการรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ ลดอาหารไขมันสูง เลี่ยงอาหารรสจัด และออกกำลังกายตามความเหมาะสม หรือตามแพทย์แนะนำ โดยหลีกเลี่ยงการออกกำลังกายหรือกีฬาที่อาจได้รับการกระแทก การวิ่ง หรือกระโดดสูง
- หลีกเลี่ยงการติดเชื้อโรค โดยไม่ไปในสถานที่ที่มีคนแออัด โดยเฉพาะคุณแม่ที่สุขภาพไม่ดี หรือมีภูมิคุ้มกันโรคต่ำ
- งดบุหรี่ แอลกอฮอล์ และสารเสพติดโดยเด็ดขาด รวมถึงหลีกเลี่ยงการสัมผัสสารเคมีต่างๆ เช่น ยาฆ่าแมลง หรือน้ำยาทำความสะอาดที่ผสมสารเคมี
- หลีกเลี่ยงการมีเพศสัมพันธ์แบบรุนแรง โดยเฉพาะในช่วงตั้งครรภ์อ่อน ๆ
การแท้งบุตรสามารถเกิดขึ้นได้ตั้งแต่เริ่มตั้งครรภ์ไปจนถึง 28 สัปดาห์ แต่การแท้งส่วนใหญ่มักเกิดในช่วงอายุครรภ์ 4-20 สัปดาห์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วง 13 สัปดาห์แรกของการตั้งครรภ์ คุณแม่ที่แท้งบุตรสามารถตั้งครรภ์ได้อีกครั้งทันที แต่ควรมีการเตรียมตัวทั้งทางร่างกายและจิตใจ รวมถึงควรเข้ารับคำปรึกษาเพื่อวางแผนการตั้งครรภ์กับแพทย์ อย่างใกล้ชิด เนื่องจากผู้ที่มีประวัติการแท้งมักพบว่ามีความเสี่ยงมากกว่าปกติ